หลากหลายชาติ หลากหลายวัฒนธรรม ในบางรักมีอะไรอีกเยอะที่ให้คุณได้ค้นหา…
เริ่มการเดินทางกันเลย…
เดินทางมาได้โดย BTS มาลงสถานีสะพานตากสิน หรือจะนั่งเรือมาลงท่าเรือสาทรก็ได้นะ
มาเรามาเริ่มจากที่แรกกันเลย เพียงแค่เดินลงมาจาก BTS สะพานตากสิน (Exit 3) แล้วหันหลังเดินเข้าไปในซอยเล็กน้อย
คุณก็จะเห็น “ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว“

ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนักเดินทางชาวจีน 108 คน ที่โดนฆ่าที่เวียดนาม เพราะคิดว่าเป็นโจรสลัด

ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ มีเทพเจ้าของชาวจีนประดิษฐานอยู่หลายองค์ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่เคารพสักการะของคนจีนในย่านนี้

จากนั้นเดินออกมาทางโรบินสันบางรัก เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป…
แต่จะว่าไป อากาศร้อนๆ แบบนี้ มันต้องหิวกระหายน้ำกันบ้างแหละหน่าาาา
มองซ้าย มองขวา อะฝั่งตรงข้ามโรบินสัน มีร้านน้ำขม น้ำเก๊กฮวย ให้กิน
ถ้ากินก็คือ อ่าาาาา สดชื่นถึงใจแน่นอนบอกเลย งั้น… ข้ามถนน โลดดดดด~

อะ มีตั้ง 2 ร้านเลือกไม่ถูกหละสิ งั้นเลือกร้านนี้เลย “หว่าโถ่ว”
เดินเข้าไปแล้วบอกพี่เขาเลยว่า “เก๊กฮวย 1 แก้วค่ะ/ครับ” พี่เข้าก็จะกดมาให้เลย
เห็นถ้วยเล็กๆ แบบนั้น แต่ปริมาณน้ำและความสดชื่นคือทะลุแก้วไปแล้วนะ ฮ่าๆ
กินไปคือสดชื่น ชุ่มฉ่ำมาก ต่อชีวิตการเดินได้อีกเป็นกิโล อิอิ
อ้อออออ ราคาแก้วละ 9 บาท เองนะ ถูกจัดปลัดมากระซิบบอก
.
.
.
เดินกันต่อเลยละกัน เพราะจุดหมายต่อไปของเราคือ “วัดสวนพลู”
อืมมมม 🤔 งั้นข้ามถนนกลับไปก่อนละกัน เพราะมันอยู่ฝั่งนู้น นี่พามากินน้ำให้ชุ่มคอไง เอาหน่า ข้ามกลับนิดหน่อย ไปๆ ข้ามๆ
หลังจากข้ามกลับถนนมาแล้ว เราก็เดินไปทางขวาเรื่อยๆ ผ่านตลาดบางรัก ผ่านทางเข้าโรงแรมแชงกรี-ลา
เดินต่ออีกไม่ถึง 20 ก้าวก็มาถึงประตูหน้าทางเข้าแล้ว เดินเข้าไปเลยละกัน ไม่รอช้า
ถึงแล้วววว

ก่อนอื่น เราจะพาไปดู “กุฏิขนมขิง” กันก่อน เพราะว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่นของวัดแห่งนี้

นี่คือกุฏิสงฆ์ไม้ฉลุลาย หรือที่เรียกกันว่าขนมปังขิง


หมู่กุฏิเหล่านี้ได้รับรางวัล “อนุรักษ์ดีเด่น มรดกสถาปัตยกรรมในประเทศไทย” จากสมาคมสถาปนิกสยาม
.
.
เรายืนชื่นชมความงามของสถาปัตฯ ได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่เราจะเดินเข้าอุโบสถกันแล้ว


เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกวัดนึงในย่านบางรัก เดินดูความสวยงามรอบๆ อุโบสถกันสักเล็กน้อย
ก่อนขึ้นไปสักการะพระที่ประดิษฐานอยู่ด้านบน


ได้เวลาเดินขึ้นไปด้านบนแล้วนะ อย่าลืมถอดรองเท้าหล่ะ…
เดินขึ้นมาด้านบน แค่เห็นตรงประตูทางเข้าอุโบสถ คือแบบ สตั้นไปแปปนึงอะ คือดูงดงาม ด้วยความที่อุโบสถด้านบนข้างในเป็นไม้ด้วยแหละ


เดินออกจากซอยวัดได้แปปเดียวเท่านั้น หางตาก็ได้เหลือบไปเห็น “ร้านปั้นลี่”
อ่ะ ร้านนี้ไง ที่มีคนรีวิวชานมไข่มุกเยอะๆ อืมมม มันอร่อยจริงรึเปล่านะ…
งั้นข้ามถนนละกัน // ข้ามถนนอีกแล้ว ขยันข้ามจัด ฮ่าๆ เอาหน่า เพื่อของกินข้ามหน่อยหน่า ไม่เสียหาย
ข้ามมาแล้วก็เปิดประตูหน้าร้าน แล้วก็ตรงดิ่งไปหน้าบาร์น้ำเลย (เพราะเขาแยกที่สั่งน้ำกับเชลฟ์วางขนม)
อืมมมม น้ำนี่มีอะไรบ้างนะ พอหันไปเจอป้ายเมนูก็ถึงบางอ้อ คือมี 2 แบบ ( นมสด / ชานม )
เราก็จัดการสั่งเลย “พี่คะ เอาชานมไข่มุก 1 แก้ว หวานปกติค่ะ” รอแปปเดียวก็ได้มา

พอได้มาแล้วก็นำแก้วชานมนั้นไปที่เคาน์เตอร์ คิดเงิน
ราคาแก้วละ 60 บาท เท่านั้น
ปล. สำหรับคนชอบหวาน ความหวานปกติ ก็คือน่าจะดีสำหรับคุณ แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานมากก็สามารถสั่งว่า “หวานน้อย” ก็ได้นะ
.
.
.
ได้กินชานมไข่มุกแล้ว ก็มีแรงเดินต่อแล้วสินะ ฮ่าๆๆ
มาเราจะมาเดินต่อไปด้วยกัน ไปปปปปป GoGo~ ที่ต่อไปที่จะไปก็คืออออออ “พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก”
เดินผ่านไปรษณีย์กลางมานิดเดียวเท่านั้น คุณก็จะเห็นซอยเจริญกรุง 43 (ฝั่งตรงข้ามกับไปรษณีย์นะ)
นั่นแหละๆๆๆ ซอยนั้นแหละ เดินเข้าไปในซอยเลย ไม่ต้องลังเล.. เดินตรงเข้าไป ผ่านใต้สะพาน
เดินอีกนิดนึง ก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ด้านขวามือ

อ้อ บอกก่อนว่าเข้าชมฟรี!! แต่ว่าจะต้องลงชื่อเข้าชมกับคุณพี่ข้างหน้าทางเข้าก่อนนะ
งั้นลงชื่อเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปข้างในเลยละกัน
ที่นี่เป็นบ้านคนมาก่อน ก่อนที่จะยกบ้านหลังนี้ให้เป็นสมบัติของกรุงเทพฯ และได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ภายในพิพิธภัณฑ์นี้จะแบ่งเป็น 4 อาคารด้วยกัน มีหลายโซนมาก อาทิเช่น
ห้องรับแขก / ห้องอาหาร / โถงชั้นล่าง / ห้องนอน ฯลฯ

รวมไปถึงห้องที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวสมัยก่อน หรือแม้กระทั่งเครื่องมือต่างๆ ฯลฯ


ยังมีชั้นที่จัดแสดงภาพรวมต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงบุคคลสำคัญ / สถานที่สำคัญ / สายสัมพันธ์ไทย-ตะวันตก ฯลฯ


.
.
.
เดินชมห้องนู้นห้องนี้ไปจนครบ ก็รู้สึกว่า เอ้ะ ลืมอะไรไปสักอย่าง.. อืมมมม ลืมไรนะ คิดแปป….
.
.
.
อ๋ออออออ !!! ลิมกินข้าวไง ไอ่บ้าเอ้ย ฮ่าๆๆ เดินชมสถานที่ต่างๆ เพลินจนลืมกินข้าวเลย
ฮั่นแน่~ หิวแล้วหล่ะสิ อะๆมาๆ เดี๋ยวพาไปกินข้าว
ไม่ไกลหรอกหน่าาา อย่าคิดเยอะ มา เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็หันขวา เดินออกมาจากซอย แล้วก็ข้ามถนนเลย
พอข้ามไปปุ๊บก็เดินไปทางขวา แล้ว “ร้าน บ้านการะเกด” ก็จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของคุณ

ไม่รอช้า เปิดเมนู แล้วก็สั่งเลยละกัน
.
.
นี่คือผลประกอบการของการสั่งตอนหิว ฮ่าๆๆๆๆ

เมนู “น้ำพริกกุ้งสด”

เมนู “ปลาช่อนพุงแตก”

เมนู “ต้มยำทะเลน้ำใส”

เมนู “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายผัดแห้ง”
อย่าลืมสั่งข้าวสวยด้วยหละ เดี๋ยวไม่อิ่ม เพราะหลังจากที่กินเสร็จเราก็จะเดินไปที่ต่อไปกัน ซึ่งเป็นที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ของเรา..
อ้อออออ กินเสร็จอย่าเพิ่งลุกออกนะ จ่ายเงินเขาก่อนนะค่อยลุก ไม่ใช่กินเสร็จแล้วลุกไปเลยนะ โดนจับไม่รู้ด้วยหน่าาาา 😛
.
.
.
สถานที่ที่เราจะไปเป็นที่สุดท้ายก็คือ “สถานศุลกสถาน”
เส้นทางการเดินเหมือนเรากำลังจะเดินกลับไปบางรักนั่นแหละ เราจะไม่อ้อมโลกออกไหนแล้ว
เดินกลับมาจนถึงปากซอย ฝั่งตรงข้ามไปรษณีย์กลางแล้วก็ข้ามถนน จากนั้นก็เดินไปทางซ้าย
เดินไปเรื่อยๆ จนถึงเจริญกรุงซอย 36 เห็นปุ๊บก็เดินเลี้ยวเข้าไปได้เลย เดินชมอาร์ตบนกำแพงสักนิด ถ่ายรูปด้วยสักหน่อย

เดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นทางเข้าที่ดูเก่าๆ หน่อย นั่นแหละ ถึงแล้วสถานที่ประวัติศาสตร์สุดๆ เข้าไปชมความขลังของตึก
ความสวยงามของสถาปัตยกรรม และเรื่องราวต่างๆ รวมถึงสัญลักษณ์ด้านบนตึกด้วย



สามารถถ่ายรูปกับตึกได้นะแบบชิคๆ คูลๆ ฮิปๆ แต่ว่าถ้าจะเข้าไปถ่ายก็กระซิบบอกพี่ที่รักษาความปลอดภัยนิดนึงนะ

ก่อนกลับบ้านก็แวะกินโจ๊กปรินซ์ (บางรัก) ก่อนได้นะ หรือจะเดินโรบินสันบางรักเล่นๆ กันก่อนก็ได้นะ
.
.
.
โชคดีมีชัย โชคชัยมีวัว อย่าลืมระวังตัว เพราะทริปหน้าเราจะพาไปเดินเล่นอีก.. อิอิ
#อัศวินเจอนี่ #อัศวินสายแดก🦇🐼 #สายแดกแห่งรัตติกาล